รองเลขาธิการเพื่อไทย ย้ำ ธุรกิจขายกัญชาผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด หลังเปิดเสรี แค่ 2 เดือน เด็ก-เยาวชนแห่ลอง เหตุเข้าถึงง่ายกว่าบุหรี่ เตือน “ประยุทธ์ – อนุทิน” ยกเลิกก่อนอนาคตของชาติพังทลาย
ดร.อรุณี กาสยานนท์ รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เป็นเวลาเกือบ 2 เดือนแล้วหลังกระทรวงสาธารณสุขออกประกาศยาเสพติดให้โทษประเภท 5 หรือ ‘กัญชา-กัญชง เสรี’ ได้สร้างภัยมหันต์ให้กับระบบการศึกษาไทยที่อยู่ในภาวะร่อแร่อยู่แล้วให้ตกอยู่ในสถานการณ์ยากลำบากมากขึ้น นับตั้งแต่ปลายเดือนมิถุนายนจนถึงกลางเดือนกรกฎาคม 2565 ได้เกิดสภาวะกัญชาระบาดในเด็ก มีเด็กป่วยจากการใช้กัญชาทั้งที่โดยตั้งใจและไม่ตั้งใจจำนวนมาก อายุน้อยสุดเพียง 4 ขวบครึ่ง มีนักเรียน จ.ลำปาง ลักลอบเสพและขายกัญชาในโรงเรียน เกิดอาการเมามายหวิดทะเลาะวิวาทกับครู และยังได้สร้างปัญหาทางสังคม สร้างความเห็นแก่ตัวให้กับผู้ประกอบการบางกลุ่มที่แอบผสมกัญชาในอาหารและเครื่องดื่มโดยไม่ละอายใจ
โดยหวังผลให้ผู้บริโภคเสพติด ทั้งหมดล้วนเกิดจากความคิดน้อย ไม่รอบคอบ ครอบคลุมของรัฐบาล ไม่คำนึงถึงผลกระทบที่จะตามมา คิดเพียงแค่ปล่อยผ่านให้พรรคร่วมรัฐบาลเจ้าของนโยบายนี้ได้ทำนโยบายที่ไม่มีความจำเป็นเร่งด่วนตามที่พูดไว้ เพียงเพื่อให้ยังคงเสียงสนับสนุนในกลุ่มพรรคร่วมรัฐบาลเท่านั้น หากเป็นเช่นนั้นจริงเท่ากับว่ารัฐบาลนี้กำลังเอาเด็กและเยาวชนเป็นตัวประกันต่อรองผลประโยชน์ทางการเมือง ทั้งที่ต้องตระหนักให้ได้ว่า กัญชาเสรีที่ไร้กฎหมายควบคุม กำลังจะกลายเป็นปัญหาที่ส่งผลต่อเด็กและเยาวชนที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ในระยะยาว
ดร.อรุณี กล่าวอีกว่า อยากให้รัฐบาลฟังเสียงเตือนของประชาชนบ้าง เสียงเตือนมีอยู่รอบทิศ ต้องฟังให้มากกว่าดันทุรังต่อไป โดยเฉพาะกลุ่มแพทย์ประจำบ้านฯ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล 851 รายชื่อที่ขอให้รัฐบาลปิดสภาวะกัญชาเสรีในสภาวะสุญญากาศทันที อีกทั้งยังมีแคมเปญลงรายชื่อผ่าน change.or.th ชะลอกัญชาเสรีและขอให้มีกฎหมายคุ้มครองเด็กใช้กัญชาออกมาก่อน ผ่านเวปไซต์ https://www.change.org/p ดังนั้นพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และนายอนุทิน ชาญวีรกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ต้องยกเลิกกัญชาเสรีไปก่อน คงไว้ใช้เพื่อการแพทย์ และหันไปเร่งออกกฎหมายคุ้มครองเด็กใช้กัญชาก่อนอนาคตชาติพังไปมากกว่านี้
“การละเลย คือ การไม่ปกป้อง การเมินเฉยมีแต่จะสร้างความเสียหายให้เด็กและเยาวชน สภาวะทางร่างกาย และความยั้งคิดของพวกเขายังต้องการการดูแล คำแนะนำ และกฎหมายที่มีความพร้อมมากกว่านี้ ถ้าไม่พร้อมก็ไม่ควรทำ ไม่จำเป็นก็ไม่ต้องรีบเร่ง นักเรียนจำนวนมากหลุดจากระบบการศึกษาจากความบกพร่องในการบริหารงานของพวกท่าน แก้ตรงนี้ให้ได้ค่อยคิดเรื่องอื่น” ดร.อรุณีกล่าว